วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การเลี้ยงปลากัดตอนที่ 3

การเลี้ยงปลากัด
การเลี้ยงปลากัด ใช่ว่าจะเลี้ยงไว้เพื่อกัดกันอันซึ่งเป็นการพนัน ขันต่อกันแต่เพียงประการเดียว ยังมีการเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความสวยงามอีกด้วย และการเล่นแบบนี้แพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งนี้เพราะปลากัดเป็นปลาที่มีความสวยงามมิใช่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งในปัจจุบันสีของปลากัดยิ่งสวยงามขึ้นเป็นอย่างมาก

การเลี้ยงปลากัดสามารถจำแนกประเภทของการเลี้ยงแบบต่างๆได้เป็นดังนี้
การเลี้ยงปลากัด เพื่อเอาไว้ดูเล่น

ถ้า มีความประสงค์จะเลี้ยงปลากัดไว้ดูเล่นอยู่กับบ้านโดยไม่ต้องหวังจะกัดแข่ง ขันกับใครแล้วละก็ย่อมกระทำได้เช่นกัน จะเลี้ยงไว้ในภาชนะไม่ว่าจะเป็นขวดโหล หรือตู้ปลาขนาดเล็กได้ตามต้องการเลยครับ สำหรับสถานที่จะตั้งเลี้ยงตรงไหน ซอกมุมใด ก็ย่อมทำได้ตามความเหมาะสม แล้วแต่ความสวยงามของสถานที่นั้นๆเลยครับ

ใน กรณีที่ต้องการเลี้ยงปลากัด ในตู้ปลาร่วมกับปลาอื่นๆก็ย่อมกระทำได้เช่นกัน ปลากัดจะไม่ค่อยมีพฤติกรรมก้าวร้าวนัก ซึ่งผู้เลี้ยงเริ่มคิดที่จะมีปลาต่างๆมักมองข้าม การเลี้ยงปลากัด นี้ไป อาจเนื่องมาจากตามร้านขายปลาจะแยกเลี้ยงปลากัดไว้ในขวดโหลซึ่งทำให้เราคิดว่ามันต้องเป็นปลาที่ต้องอยู่ตัวเดี๋ยวเพียงลำพัง ประกอบกับเหตุผลที่ว่าปลากัดเป็นปลานักสู้ ผู้เลี้ยงกลัวว่าจะไปรบกวนปลาในตู้ให้เกิดการเสียหายได้

เพราะว่าปลากัด สามารถหายใจโดยหุบอากาศจากผิวน้ำได้ แม้ว่าในน้ำจะมีออกซิเจนไม่เพียงพอ ปลากัดก็สามารถเลี้ยงไว้ในขวดหรือโหลได้โดยไม่เอาใจใส่เรื่องน้ำมากเหมือนกับ การเลี้ยงปลาตู้ทั่วไป อย่างไรก็ดีโดยธรรมชาติแล้ว การเลี้ยงปลากัด ก็เหมือนกับปลาทั่วๆไป คือเป็นปลาที่ต้องการอยู่ในน้ำที่มีความสดใส สะอาด และคุณภาพดี นั้นเอง ดังนั้นถ้านำปลากัดมาเลี้ยงไว้ในตู้ปลาที่มีระบบกรองน้ำและปั๊มอากาศแบบที่ นิยมเลี้ยงกันทั่วไป ข้อดีของ การเลี้ยงปลากัด ในตู้ก็คือปริมาณออกซิเจนเหนือผิวน้ำมีมากเกินพอ สำหรับปลากัดเมื่อเทียบกับปริมาณออกซิเจนที่อยู่ในขวดโหลทั่วไป ทำให้ปลามีสุขภาพสมบูรณ์ยิ่งกว่าการเลี้ยงในขวดโหล ซึ่งปลากัดที่เลี้ยงในขวดโหลจะไม่ร่าเริงเท่ากับที่เลี้ยงไว้ในตู้ ชอบนอนนิ่งๆ อยู่ก้นขวด ครีบทุกครีบหุบตลอดเวลา ตรงกันข้ามถ้านำปลากัดไปเลี้ยงไว้ในตู้ปลา ปรากฏว่าปลากัดจะมีความร่าเริงมาก ว่ายน้ำขึ้นลงเพื่อฮุบอากาศ ครีบกางออกอย่างสวยงาม แสดงให้เห็นอย่างแน่ชัดว่าปลากัดชอบอยู่ในน้ำที่มีสภาพสมบูรณ์และมีพื้นที่ อย่างกว้างๆกว่าอยู่ในขวดอย่างแคบๆ ทำให้ดูสวยงามเป็นที่ต้องตื่นตาอยู่ตลอดเวลา การเลี้ยงปลากัด ไว้ดูเล่นนี้แม้ว่ามีปลากัดตัวผู้อยู่เพียงตัวเดียวก็อาจทำ ให้มีการต่อสู้ได้เหมือนกัน โดยเอากระจกไปพิงไว้กับข้างภาชนะที่ใส่มันไว้ นั่นคือให้มันกัดต่อสู้กับเงาของมันเอง บ้างเพื่อให้มันไม่ลืมสัญชาติญาณของตัวเอง

การเลี้ยงปลาักัด ไว้กัดแข่งขัน
ถ้าต้อง การเลี้ยงปลากัด เพื่อกัดแข่งขันแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาประการแรกคือ เรื่องสถานที่เลี้ยงมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ยิ่งสำหรับนักเลี้ยงปลาไว้เพื่อกัดแข่งขันเป็นอาชีพต้องคำนึงถึงสถานที่ให้ มากด้วย เพราะถ้าเราเลี้ยงปลาไว้ในที่ที่สงบหรือมืดเช่น ในมุมหนึ่งมุมใดของบ้าน ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือเลี้ยงไว้ในที่ไม่มีคนเดินผ่านจะทำให้ปลาเคยชินกับความสงบ เวลาเอาไปกัดแข่งขันแล้วในสถานที่แข่งขันนั้นย่อมมีคนมาก และมีความสว่างพอสมควร จะทำให้ปลาตื่นตกใจหลบวูบวาบอยู่เสมอ ไม่เป็นอันกัดคู่ต่อสู้ ดังนั้นถ้าจะเลี้ยงปลาไว้กัดแข่งขันควรเลี้ยงไว้ที่โล่งซึ่งมีคนผ่านไปผ่าน มาบ่อยๆเพื่อให้มันชินกับคนและแสงสว่าง เวลาเอาออกสนามเข้ากัดแข่งขันมันจะไม่ตื่นตกใจเมื่อเห็นคนมากหน้าหลายตา ก็เหมื่อนกับคนเรานั้นแหละครับ

นอกจาก ที่กล่าวมาแล้ว สถานที่ การเลี้ยงปลากัด ควรเป็นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดีในฤดูร้อน เนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้อุณหภูมิน้ำสูงเกินไป อุณหภูมิน้ำไม่ควรเกิน 30 องศา ส่วนในฤดูหนาวอุณหภูมน้ำส่งผลให้ปลากินอาหารน้อยหรือไม่กินอาหารเลยอันเป็น สาเหตุให้ปลาตายได้เช่นกัน

สำ หรับภาชนะที่ในการเลี้ยงปลากัดนี้ ควรเป็นภาชนะขนาดเล็กที่ไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่ มีช่องเปิดไม่กว้างนัก ภาชนะที่เหมาะสมที่สุดใช้เลี้ยงปลากัดได้แก่ ขวด(สุรา)ชนิดแบนบรรจุน้ำได้ 150 วีซี. เพราะสามารถวางเรียงกันได้ดีไม่เปลืองเนื้อที่ เพราะปากขวดแคบๆสามารถป้องกันปลากระโดดได้ และป้องกันศัตรู เช่น แมง จิ้งจก ฯลฯ ได้เป็นอย่างดี และหากมีเนื้อที่น้อยก็สามารถทำชั้นวางปลากัดไว้เป็นชั้นๆ แบบขั้นบันไดได้ วางขวดที่เลี้ยงปลา(ปลาตัวผู้)ในและครอกแยกกันเพื่อความสะดวกในการคัดเลือก หาคู่(ครอก)ที่กัดเก่งที่สุด

การ ปล่อยปลาเลี้ยงนี้ก็ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง หากปล่อยให้ปลาตกพื้นอาจทำให้ปลาบอบช้ำและเป็นโรคตายได้ สำหรับน้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดต้องเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากคลอรีน มีความเป็นกรด-ด่างประมาณ6.5-7.5 มีความกระด่าง 75-100มิลลิกรัมต่อลิตร หลังจากทำความสะอาดขวดแล้วควรบรรจุน้ำเพียง 3ใน4 ของขวด เพื่อเว้นช่องว่างให้อากาศได้สัมผัสกับน้ำ และปลากัดสามารถหายใจได้โดยการฮุบอากาศบริเวณผิวน้ำ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเพิ่มออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนพันธุ์ไม้น้ำที่ใส่ควรใส่ใบตองแห้งแทน โดยฉีกใส่เพียงเล็กน้อย

สำหรับอาหารของการเลี้ยงปลากัดนี้มีผู้ให้ต่างๆกันไป อาหารที่นิยมให้ปลากัดกินมีดังนี้

1. ลูกน้ำ
2. ไข่ไร
3. ลูกไร
4. ไข่ปลา
5. ลูกหมัดหมา(ลุกปลาที่เพิ่งออกจากไข่)

ใน บางฤดูกาลหากไม่สามารถหาอาหารสำหรับ การเลี้ยงปลากัด ได้ดังกล่าวได้ ก็สามารถให้อาหารเนื้อประเภทอื่นที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆทดแทนได้ เช่น หัวใจปลา กุ้ง เนื้อหมู เป็นต้น แต่ปลาจะไม่แข็งแรงและน้ำจะเน่าเลียได้ง่าย ซึ่งเป็นเหตุให้ความสมบูรณ์แข็งแกร่งไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็มีบางคนกล่าวว่าการให้อาหารประเภทกุ้งสดนี้มันทำให้ปลาอ้วนไม่ว่องไว เวลานำเข้ากัดแข่งขัน ซึ่งนักเล่นปลาที่ชำนาญจะใช้ลูกน้ำอย่างเดียวเท่านั้น เพราะลูกน้ำเป็นอาหารประเภทสร้างกำลังให้กับปลากัดได้ดี โดยให้กินแต่พอดีจะไม่ทำให้ปลาอ้วนเกินไป อาหารที่มีชีวืตโดยเฉพาะลูกน้ำนี้มักจะได้จากการรวบรวมจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคที่ติดต่อถึงปลาได้ ดังนั้นก่อนใช้เลี้ยงปลาทุกครั้งควรล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วแช่ในด่างทับทิมเข้มข้น 500-1000ส่วนในล้านส่วน (0.5-1.0 กรัม/ลิตร) เป็นเวลา 10-20 วินาที เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับอาหาร จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่งจึงใช้เลี้ยง โดยควรให้วันละ 1 ครั้ง ปริมาณที่ให้ก็พอดีปลากินอิ่ม หากให้อาหารมากเกินไปอาหารที่เหลือในขวดอาจตายทำให้น้ำเน่าเสีย เป็นสาเหตุให้ปลาเป็นโรคและตายได้ ถ้าหากให้อาหารน้อยเกินไปก็จะทำให้ปลามีความไม่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่สามารถกัดแข่งขันได้ดีตามต้องการ

ระหว่าง การเลี้ยงดูนี้การถ่ายเทน้ำควรกระทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่การถ่ายเทน้ำจะแตกต่างจากปลากัดที่เลี้ยงไว้ในตู้ ซึ่งมักจะใช้ชีวิตดูดของเสียและเศาอาหารเหลือนอนก้นก่อนแล้วจึงถ่ายน้ำเก่า ออกเพียง 1/4 - 1/2 ของปริมาณน้ำทั้งหมด สำหรับปลากัดซึ่งเลี้ยงในภาชนะแคบๆยากที่จะกำจัดของเสียได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีเทน้ำเก่าทิ้งทั้งหมดโดยไม่ต้องจับปลาออกจากขวด แล้วจึงเติมน้ำใหม่ทันที แต่ทั้งนี้น้ำที่มาเปลี่ยนใหม่จะต้องมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำจากมีสิ่ง ปฏิกูลหมักหมมท่บริเวณด้านข้างหรือก้นขวด โดยการจับปลาออกจากขวดเก่าใส่ในขวดใหม่ที่สะอาดเพื่อป้องกันการเกิดโรคที่ อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเลี้ยงปลากัดที่มีอายุซัก3เดือนก็กัดได้ แต่การกัดของปลาอายุยังน้อยจะเอาให้เก่งกันจริงๆย่อมไม่ได้ แม้ตัวจะเท่ากันหากไปจับคู่กับปลาที่แก่กว่า จะสู้ปลาที่มีอายุแก่กว่าไม่ได้ เพราะความเหนียวของเนื้อ ความแข็งของเกล็ด ความแข็งของปาก สู้ปลาที่แก่กว่าไม่ได้ สำหรับปลากัดที่เหมาะสมแก่การที่จะนำเข้ากัดแข่งขันนั้นต้องเป็นปลาที่มี อายุชนขวบ คือมีอายุเต็มปี เพราะปลากัดที่มีอายุ1ปีนี้จะเป็นปลาที่แกร่งและแข็งแรงพอที่จะเป็นนักสู้ ได้อย่งสมบูรณ์พร้อมท่จะเข้ากัดแข่งขันได้อย่างดี

การเลี้ยงปลากัด ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายนะครับ ใครสนใจก็ลองทำตามวิธีข้างต้นได้เลยนะครับ